โรคเอดส์เป็นโรคติดต่อร้ายแรงโรคหนึ่ง ที่ปัจจุบันยังไม่มีตัวยาใดๆ ที่รักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ ปัจจุบันโรคเอดส์เป็นโรคเป็นโรคหนึ่งที่คร่าชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลว่าพบกันส่วนใหญ้ในทวีปแอฟริกา เอเซียใต้ แต่พื้นที่พบผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุดคือ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้!!!
จากนั้นได้มีการจัดตั้งกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์ ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2531 ให้เป็นวันเอดส์โลก (World Aids Day) เพื่อเป็นวันจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านโรคเอดส์พร้อมเพรียงกันทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายว่า
คำขวัญวันเอดส์โลก
คำขวัญวันเอดส์โลกล่าสุดใน พ.ศ. 2555 คือ Getting to zero : เอดส์ ลดแล้ว…ลดอีก
สัญลักษณ์ของวันเอดส์โลก
สัญลักษณ์ของ วันเอดส์โลก คือ โบว์สีแดง (Red Ribbon) เป็นสัญลักษณ์ของวันเอดส์โลก ที่ใช้กันทั่วโลก เพื่อแสดงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่างผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี โพซิทีฟ (HIV-positive) กับผู้ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเอดส์ทั้งหลาย
โรคเอดส์เกิดขึ้นได้อย่างไร???
โรคเอดส์ หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (AIDS : Acquired immune Deficiency Syndrome) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ฮิวแมนอิมมิว โนเดฟีเซียนซี ไวรัส (Human Immunodeficiency Virus : HIV) ที่เราเรียกกันว่า เชื้อเอชไอวี ซึ่งเชื้อไวรัสนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำลายเม็ดเลือดขาว ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันโรค และเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำลงเรื่อยๆ จนร่ายกายไม่สามารถคุ้มกันโรคต่างๆได้ จะทำให้ร่างกายเป็นโรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและ หนักทำให้ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำให้เสียชีวิตไปในที่สุด โดยส่วนใหญ่โรคที่จะแทรกซ้อนเมื่อภูมิคุ้มกันต่ำลง ได้แก่ วัณโรค ปอดบวม เชื้อในระบบโลหิต เป็นต้น
ทั้งนี้เมื่อเราเข้าใจถึงความน่ากลัวของโรคเอดส์แล้ว ทำให้กลุ่มคนที่รับเชื้อเอชไอวีมานั้น ถูกรังเกลียดจากสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากกลัวการติดเชื้อ แต่ความจริงแล้วโรคเอดส์นั้นไม่สามารถติดต่อกันได้ง่ายๆ โดยการติดเชื้อนั้นจะต้องติดกันเฉพาะที่แบบจริงๆ โดยสามารถแบ่งออกได้ 3 หลักใหญ่ๆ ได้แก่
กลุ่มคนผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี (โรคเอดส์)
แนวทางการป้องกัน โรคเอดส์
เพราะฉะนั้นในเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือว่าเป็นวันเอดส์โลก อยากเขิญขวนให้มาร่วมกันเป็นส่วงหนึง่ที่ช่วยให้เกิดการแพร่เชื้อโรคเอชไอวี หรือโรคเอดส์กันอย่างต่อเนื่อง กันนะครับ
ขอบคุณข้อมูล lib.ru.ac.th, aidsthai.org