เรียน “สายวิทย์” หรือ “สายศิลป์” ดี
![06158_002](http://scoop.mthai.com/app/uploads/2013/03/06158_002.jpg)
หากจะพูดถึงการศึกษาในบ้านเรานั้น ทุกๆ คนจะต้องผ่านระบบการศึกษาพื้นฐานกันมาก่อน นั้นก็คือ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.ต้น) และหลากจากนั้นจะถึงจุดที่จะต้องตัดสินใจในการศึกษา เพื่อไปทางที่ตนเองรัก และทำงานต่อไปในอนาคต
ที่นี้หากเรามาพูดถึงระบบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ก็มีไม่มากนัก แต่ หลายๆ คน มักจะตั้งคำถามว่า เรียน “สายวิทย์” หรือ “สายศิลป์” ดี ซึ่งการเลือกสายที่เรียนนั้นจะต้องมีการวางแผนก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เจอปัญหาภายหลังที่นี้เรามาดูกันว่า ความแตกต่างของ “สายวิทย์” และ “สายศิลป์” กัน
![n20100719111304_1794](http://scoop.mthai.com/app/uploads/2013/03/n20100719111304_1794.jpg)
สายวิทย์ จะเน้นการศึกษาไปทางด้านวิทยาศาสตร์ ทั้ง ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ซึ่งเป็นวิชาหลักๆ ที่สร้างปัญหาให้กับนักเรียนได้มากเลยทีเดียว เพราะเนื่องจากต้องมีการทดลองโครงงานวิทยาศาสตร์ ท่องสูตร คำนวณ ซึ่งสายนี้จะมีการศึกษาที่ค่อนข้างหนักไปทางตัวเลข ซึ่งแน่นอน สายศิลป์ ไม่ชอบเอาซะมากๆ
![1329720005](http://scoop.mthai.com/app/uploads/2013/03/1329720005.jpg)
สายศิลป์ สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ได้แก่ สายศิลป์-คำนวณ จะเน้น คณิต และการใช้ภาษาอังกฤษ เป็นพื้นฐาน ส่วนวิทยาศาสตร์ หรือ คำนวณต่างๆ เรียกได้ว่า พื้นฐานเอามากๆ หากเทียบกับสายวิทย์ และ สายศิลป์-ภาษา ซึ่งจะเน้นไปทางด้านภาษาเป็นส่วนใหญ่ บางสถานศึกษามีหลักสูตรให้เรียนมากกว่า 3 ภาษาเลยทีเดียว โดยปัจจุบัน ภาษาที่นิยมศึกษา ได้แก่ อังกฤษ จีน เกาหลี เป็นต้น
ทำอย่างไรถึงจะเลือกสายเรียนให้ถูกใจ
1. ลองสังเกตุหรือถามตัวเองว่าชอบเรียนสายไหนมากกว่ากัน โดยไม่ตัดสินใจจากการเรียนตามเพื่อนหรือคนอื่นๆ
2. ลองดูจากใบการศึกษาที่ผ่านมาว่า เรามีความถนัดทางด้านไหน เช่น หากวิชา วิทย์ คณิต ได้ 3+ เกือบทุกเทอม นั้นแสดงว่าเรามีความสามารถทางด้านคำนวณ ซึ่งสามารถเลือกเรียน สายวิทย์ ที่เป็นตัวเลือกที่ดีสุดนั้นเอง
3. มองไปถึงอนาคตว่าเราอยากทำอาชีพอะไร เช่น อยากเป็นไกด์นักน่องเที่ยว เราก็ต้องเก่งภาษา ซึ่งสาย ศิลป์-ภาษา คือคำตอบ
4. หากจนหนทาง ลองปรึกษาพ่อแม่ หรือรุ่นพี่ๆ ให้คำแนะนำ