นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส
Google วันนี้ ครบรอบวันเกิด 540 ปี ของ นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส นักดาราศาสตร์สมัยใหม่
![นิโคลัส โคเปอร์นิคัส นิโคลัส โคเปอร์นิคัส](http://scoop.mthai.com/app/uploads/2013/02/google-19.2.56-300x135.jpg)
นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส
นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส เป็นนักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ (บางท่านบอกว่าเป็นชาวปรัสเซีย) เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1473 เสียชีวิต 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1543 โคเปอร์นิคัส เป็นนักดาราศาสตร์ที่เปลี่ยนโฉมความรู้ของมวลมนุษย์ ด้วยการเสนอทฤษฎีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งขัดกับทฤษฎีโลกเป็นศูนย์กลางของอริสโตเติลและทอเลมี โดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป ถือว่าการเสนอทฤษฎีนี้ เป็นการปฏิวัติทางความรู้ครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ เทียบเท่ากับการเสนอทฤษฎีวิวัฒนาการของชาลส์ ดาร์วิน ซึ่งยังมีทฤษฏีต่างๆ อีกหลายอย่างที่เขาค้นพบใหม่ แต่ขัดแย้งกับคนอื่นๆ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลง และทำให้การค้นพบของเขาได้เผยแพร่ออกไปสู่สาธารณะชนถึงเรื่อง “การปฏิวัติทางโคจรแห่งดาวบนฟากฟ้า” De Revolitionibus Orbrium Codestium) ซึ่งมีทฤษฏีหลักๆ 3 ข้อ ได้แก่
1. ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล โดยโลกและดาวเคราะห์อื่นๆต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365 วัน หรือ 1 ปี และทำให้เกิดฤดูกาลขึ้น
2. โลกมีสัณฐานกลมไม่ใช่แบนอย่างที่เข้าใจ โดยโลกใช้เวลาหมุนรอบตัวเอง 1 วัน หรือ 24 ชม. และทำให้เกิดกลางวัน และ กลางคืน
3. ดาวเคราะห์ต่างๆที่โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นไปในลักษณะเป็นวงกลม แต่นักดาราศาสตร์รุ่นหลังบอกว่าเป็นวงรี
![นิโคลัส โคเปอร์นิคัส นิโคลัส โคเปอร์นิคัส](http://scoop.mthai.com/app/uploads/2013/02/นิโคลัส-229x300.jpg)
ประวัติทางดาราศาสตร์
ในเวลานั้นโคเปอร์นิคัสได้เสนอให้ดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลแทนโลกในแนวความคิดเดิม โดยให้ดาวเคราะห์ต่างๆ เช่น โลก ดาวศุกร์ หรือ ดาวพุธ โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงกลม (ในเวลาต่อมาโยฮันเนส เคปเลอร์ได้เสนอว่าควรเป็นวงรีดั่งโมเดลในปัจจุบัน) ถึงแม้ว่าความแม่นยำในการทำนายด้วยทฤษฎีของโคเปอร์นิคัสนั้นไม่ได้ดีกว่าทฤษฎีเก่าของอริสโตเติลและทอเลมีเลย แต่ว่าทฤษฎีนี้ ถูกใจนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคนั้นหลายคน เช่น เดส์การตส์ กาลิเลโอ และเคปเลอร์ เนื่องจากว่าทฤษฎีของโคเปอร์นิคัสนั้นเข้าใจง่ายและซับซ้อนน้อยกว่ามาก โดยกาลิเลโอกล่าวว่าเขาเชื่อว่ากฎต่างๆ ในธรรมชาติน่าจะเป็นอะไรที่สวยงามและเรียบง่าย ทฤษฎีโลกเป็นศูนย์กลางดูซับซ้อนมากเกินไปจนไม่น่าเป็นไปได้