(หมายเหตุ ทีมงานนำเนื้อหานี้มาเสนอเพื่อให้เห็นข้อเท็จจริงที่ทั่วโลกสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในตัว ไมเคิล แจ็คสัน เท่านั้น ตามที่สื่อทั่วโลกนำเสนอมุมมองแง่คิดในด้านต่างๆ รวมทั้งผลงานต่างๆของเขาเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นรวบรวมเนื้อหาจากหลายแหล่ง หากแต่ในเหตุผลส่วนตัวของไมเคิลที่แท้จริง แล้วแต่วิจารณญาณผู้อ่านครับ)
หลายคนคงจะทราบอยู่แล้วว่านะครับ ว่า ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2552 เป็นผู้หนึ่งในตำนานที่ได้เปลี่ยนแปลงตนเองหลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะจมูก (ทำจมูกโด่ง ตัดปีกจมูกแคบ) ปาก (ทำปากเรียวเล็ก) กรามแก้ม แต่ว่าเรื่องพวกนี้ เราก็เห็นกันทั่วไปในวงการบันเทิงอยู่แล้ว แต่ที่เป็นประเด็นค้างคาใจหลายคนทั่วโลกสองเรื่อง คือ เรื่องเสียงอันแหลมเล็กจนมีหลายคนสงสัยว่าเขากินฮอร์โมนเพศหญิงหรือเปล่า อีกเรื่องคือสีผิวของเขา ที่เรียกว่าเปลี่ยนจากดำเป็นขาวจั๊วะไปเลยนี่ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
.
.ไมเคิล แจ็คสัน เกลียดตัวเอง
มีหลายคนสงสัยว่า ปมในใจของ ไมเคิล แจ็คสัน คืออะไร แรงจูงใจในการทำศัลยกรรมเหล่านั้น คืออะไร บ้างก็ว่า เขาโตมาในครอบครัวคนผิวสี ที่ค่อนข้างเอาเปรียบเขาในการทำงานวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก เราจึงเห็นว่า เขาสร้างบ้านให้ใหญ่โต เรียกว่า Neverland (ในเรื่อง ปีเตอร์แพน ดินแดนแห่งนี้ เด็กจะไม่โตขึ้น และเป็นดินแดนวิเศษ) มีของเล่นสวนสนุกอยู่ เพื่อชดเชยกับวัยเด็กที่ขาดหายไป
.
Neverland บ้านของไมเคิล แจ็คสัน ที่เรียกได้ว่าเติมเต็มชีวิตวัยเด็กที่หายไป
.
ดังนั้นจะเป็นไปได้มั้ยที่ เขาเกลียดภาพลักษณ์ที่เขาเป็นไปด้วย ถึงแม้ ในอเมริกา การเหยียดสีผิวจะลดน้อยลงเรื่อยๆตั้งแต่ Martin Luther King Jr. กล่าวว่า ฉันมีความฝันว่า คนผิวสีจะอยู่กับคนผิวขาวอย่างปกติสุข แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การเหยียดผิวหมดไป ขนาด Halle Berry ที่ขึ้นรับรางวัลออสการ์เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ยังร้องไห้และพูดว่านี่คืออีกประวัติศาสตร์ของออสการ์ที่ดาราผิวสีมีโอกาสรับรางวัล(กะเขาบ้าง)
.
.
อย่างไรก็ตาม เรื่องสีผิวทีเปลี่ยนไป เขามีเพลง Black or White ในปี 1991 ซึ่งเนื้อหา(ที่แท้จริง) เกี่ยวกับความรัก ความสมานฉันท์ของคนที่ไม่ว่าสีผิวไหนก็รักกันได้ ซึ่งชื่อเพลงดันไปคล้องกับจุดสนใจเรื่องสีผิวของ ไมเคิล แจ็คสัน พอดิบพอดี..
.
.
เขาให้สัมภาษณ์กับ Oprah Winfrey เจ้าแม่ทอล์กโชว์เมื่อ 1993 ว่าผมไม่ได้ฟอกสีผิว มีคนบอกว่าผมเกลียดสิ่งที่ผมเป็น ซึ่งมันไม่ใช่ ผมไม่คิดว่ามีการ ฟอกสีผิวในโลกนี้ได้ ผมเป็นโรคผิวหนังที่เรียกว่า Vitiligo ต่างหากซึ่งในการสนทนา Oprah บอกว่า ฉันได้ยินว่ามีครีมฟอกผิวนะ แต่ไมเคิล คุณคงอาบครีมนี้มากกว่า 3000 แกลลอนแน่ๆ (ถึงได้ขาวขนาดนี้)
.
ภาพเมื่อครั้งที่ ไมเคิล แจ็คสัน ให้สัมภาษณ์แก่ Oprah Winfrey เมื่อปี 1993
.
.
Vitiligo คืออะไร
.
Vitiligo คือ โรคความผิดปกติของผิวหนัง ซึ่งทำการเม็ดสี (pigment) เปลี่ยนแปลง จากผิวดำกลายเป็นขาว และผิวขาวอาจจะกลายเป็นดำได้ โดยมีลักษณะเป็นการลาม พื้นที่ผิวหนัง บนใบหน้า มือ เท้า ข้อพับต่างๆ เกิดขึ้น 1-2% กับประชาชนอเมริกา [4] [7] ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ (แผลบาดเจ็บ หรือ โดนลวก แต่บางคนบอกว่า การลวกไม่ใช่ Vitiligo) ความเครียด หรือโดนแดดเผา คนที่ผิดปกติทางเม็ดเลือดหรือต่อมไร้ท่อจะมีโอกาสเป็น Vitiligo สูง
เราลองมาดูตัวอย่างก็ผู้ที่เป็นโรคนี้กันว่ามีลักษณะอย่างไร
.
.
.
ทีนี้ลองมาดูภาพของไมเคิล แจ็คสันกันบ้าง
.
รอยด่างเกิดขึ้นที่ใบหน้าและลำคอ
.
.
บริเวณคอ ใบหน้า และหน้าอก ปรากฏเป็นรอยด่าง
.
รอยด่างบริเวณใบหน้า
.
.
สังเกตบริเวณ รอยด่างที่แขน
.
.
รูปนี้ จะเห็นรอยด่างที่แขนและหน้าอก ใบหน้าเหลืองเหมือนทา เมคอัพ กลบ
.
.
.
เราจะเห็นว่า ร่างกายของไมเคิล แจ็คสัน มีกระดำกระด่างอยู่จริง แต่รอยขาวของไมเคิลจะไม่ได้ ?ขาวซีด? เหมือนผู้ป่วยทั่วไป เป็น ขาวอมชมพู อย่างที่หลายๆคนอิจฉา ราวกับว่าถอดรูปเงาะเป็นรูปทองยังไงยังงั้น
.
.
และสุดท้ายไมเคิล แจ็คสัน ก็ขาวโอโม่หมดจดได้ โดยไม่มีรอยด่างๆ อีก เขารักษายังไงล่ะ
สำหรับ Vitiligo โรคนี้ ทางการแพทย์บอกว่า ไม่ยืนยันว่ารักษาได้ 100% แต่การรักษาคือ ฉายแสง UV เข้าไปปรับสีให้เข้มเสมอกัน ทาครีมปรับผิว เอาเม็ดสีของพื้นที่ผิวปกติออกหรือ depigmentation (เพื่อให้ขาวได้ทั้งตัว) ลอกผิว หรือใช้วิธีง่ายๆก็คือใช้ เมกอัพช่วยปกปิด
.
.
เราไม่รู้ว่า ไมเคิล แจ็คสัน รักษาอย่างไร เขาอาจจะเลือกวิธี depigmentation ก็ได้ เพื่อให้ขาวหมดไปเลย นับว่าเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ช่วยให้ไมเคิลไม่ต้องทนกับความร่องรอยด่างของสีผิวต่อไป
.
.
ใน MV เพลง You Are Not Alone คู่กับ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ ภรรยาในขณะนั้น ซึ่ง ไมเคิล แจ็คสัน แสดงให้เห็นว่ารอยกระดำกระด่างได้หายไปหมดแล้ว ทั้งร่างกาย
ไร้รอยกระดำกระด่าง
คงหายสงสัยกันแล้วว่า ไมเคิลไม่ได้ฟอกผิว อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน”
.อย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่พวกเราอยากบอกกับวิญญาณของไมเคิล ไม่ว่าคุณจะเป็นอย่างไร ผิวสีคุณสีอะไรก็ตาม เรารักคุณเพราะคุณเจ๋งจริงๆ R.I.P. (จงไปสู่สุคติเถิด)
เรียบเรียงโดย Bonboy ณ Mthai
แหล่งที่มาของภาพและข้อมูล
[1] http://www.abc.net.au/news/stories/2007/11/08/2084905.htm
[2] http://en.wikipedia.org/wiki/Michael_Jackson
[3] http://floacist.wordpress.com/2007/06/10/vitiligo-photos-michael-jackson/
[4] http://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=47420
[5] http://answers.yahoo.com/question/index?qid=20090505205200AADOrWS
[6]http://answers.yahoo.com/question/index?qid=20090626112435AA7H0M8
[7]http://en.wikipedia.org/wiki/Vitiligo
[8] http://www.allmichaeljackson.com/interviews/oprahinterview.html
……………………………………………………………………………………………………………………………….
+ไมเคิล แจ็คสัน เค้าเป็นแค่ตำนาน “ราชาเพลงป๊อป” ไปแล้วรึเปล่า
.
You Are Not Alone เธอไม่ได้อยู่คนเดียว
..
ย้อนวันวาน ไมเคิล แจ็คสัน ไลฟ์อินแบงค็อก Live in Bangkok
..
ไมเคิล แจ๊คสัน จากไป จัสติน VS เรนจะสืบทอดตำนาน King of Pop ได้หรือไม่?
..
.
เคิล แจ็คสัน กับ ตำนาน King of Pop
.