ตัวอย่างเรียงความวันแม่ สิงหาคม เรียงความวันแม่

เรียงความวันแม่ รวมเรียงความวันแม่

Home / วันสำคัญ / เรียงความวันแม่ รวมเรียงความวันแม่

เรียงความวันแม่แห่งชาติ

เนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เรียงความวันแม่ ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ เป็นตัวกลางระหว่างแม่และลูก ที่จะอธิบายและเล่าเรื่องราวความรัก ความผูกพันธ์ของแม่และลูก วันนี้ จึงมาเรียงความวันแม่ ดีๆ สั้นๆ มาฝากเพื่อให้ทุกคนได้อ่านและนำมาประยุตก์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้กับคุณแม่ของเราได้

ตั้งแต่ เด็กจนเติบโตเป็นวัยรุ่น แม่เฝ้าสั่งสอนให้เป็นคนดี ตั้งใจเรียนหนังสือ และแม่ก็ให้ความรักอย่างจริงใจ แม้ว่าสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไปนับครั้งไม่ถ้วน แม่ก็ยังให้อภัยลูกคนนี้เสมอ และยังมอบรอยยิ้มทั้ง ๆ ที่แม่ ก็ต้องเสียน้ำตา ความผิดของลูกไม่ว่าจะครั้งไหน ร้ายแรงสักเพียงใด แม่ก็ยังพร้อมที่จะอ้าแขนกอดลูก ด้วยความรักเสมอมา
ในวันนี้ ที่ลูกประสบความสำเร็จทั้งการเรียน และการงาน ได้มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณแม่ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับจากแม่ แต่ลูกคนนี้ก็จะขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่เสียใจอีกต่อไป จะดูแลแม่ให้เหมือนที่แม่ดูแลลูกเมื่อยังเล็ก จะไม่ให้แม่ต้องเหนื่อย ทั้งกายและใจกับลูกคนนี้ และจะรักแม่ให้มากกว่ารักตัวเอง….. รักแม่ค่ะ

เรียงความวันแม่ : ร้อยคำรักว่า รักแม่

คำสั้นๆที่เรียกว่า แม่ หรือ มารดา เป็นคำที่เรียกผู้ให้กำเนิด และโดยทั่วไปก็คือ แม่ที่เป็นบุคคลสำคัญของครอบครัวแบบ พ่อ แม่ และ ลูก แม่
เป็นผู้ให้กำเนิด ผู้มีพระคุณต่อลูก คอยดูแลเอาใจใส่ลูก และสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ถือได้ว่าเป็นครูคนแรกของลูกๆ นั้นเป็นความรักที่แท้จริง
จากแม่ที่มีให้ลูก หาความรักนี้จากที่ไหนไม่ได้ นอกจาก “ผู้เป็นแม่

แม่ หรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและให้กำเนิดลูก และลูกก็จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า “แม่” โดยทั่วไปแล้ว คำว่าแม่ แต่ละภาษามักจะใช้อักษร “ม” เหมือนกันหมด เช่น คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “แม่” ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “มาเธอร์ (Mother)” หรือ “มัม (Mom)”
ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มารดา” ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มาตา” คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ม่าม้า” (แต้จิ๋ว) จีนกลางอ่านว่า มาหมะ (妈妈) คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามี้” คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามอง” คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “โอก้าซัง”
คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ออมม่า” คนเวียดนาม เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “แม๊” ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก

ดังนั้น คำว่า “แม่” เป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์ สูงส่งที่สุด เป็นคำที่ไพเราะกินใจเสมอสำหรับลูกๆ ทุกคน เป็นคำที่ประกอบไปด้วยศักดิ์ศรีและ
เกียรติภูมิอันมีค่าที่ลูกๆทุกคน ควรจะต้องเทิดทูนบูชาสักการะ และจะต้องควรระลึกอยู่เสมอ ในพระคุณของแม่ อย่างที่ไม่มีวันเสื่อมคลายลูกทุกๆ คนควรตอบแทนพระคุณพ่อแม่ หรือ ผู้ที่ให้การดูแล เลี้ยงดู เราเปรียบเสมือน

“ต้นไม้ที่ได้รับการดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยไปบำรุงลำต้นจนสมบูรณ์ เมื่อถึงเวลา ไม่ยอมออกดอกออกผล ก็ต้องโค่นทิ้ง
คนที่ได้รับการเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แต่ไม่ยอมตอบแทนคุณพ่อแม่ก็เป็นคนหนักแผ่นดินทองคำ แท้หรือไม่โดนไฟก็รู้ คนดีแแท้หรือไม่ให้ดูตรงที่เลี้ยงพ่อแม่ ถ้าดีจริงต้องเลี้ยงพ่อแม่ ถ้าไม่เลี้ยง แสดงว่าดีไม่จริง เป็นพวกทองชุบ ทองเก๊”

วันแม่แห่งชาติ
วันแม่แห่งชาติ

เรียงความวันแม่ : พระคุณของพ่อแม่

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสอุปมาว่าถ้าบุตรจะพึงวางบิดา มารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตน ประคับประคองท่านอยู่บนบ่านนั้นป้อนข้าวป้อนน้ำและให้ท่านถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะบนบ่านั้นเสร็จ แม้บุตรจะมีอายุถึง 100 ปี และปรนนิบัติท่านไปจนตลอดชีวิต ก็ยังนับว่าตอบแทนพระคุณท่านไม่หมด
ยัง มีผู้อุปมาไว้ว่า หากเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษยอดเขาพระสุเมรุแแทนปากกาน้ำในมหาสมุทรแทนหมึก เขียนบรรยายคุณของพ่อแม่จนท้องฟ้าเต็มไปด้วยอักษร ภูเขาสึกกร่อนจนหมดน้ำในมหาสมุทรเหือดแห้งก็ยังบรรยายคุณของพ่อแม่ไม่หมด บิดามารดาเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบุตร สรุปโดยย่อคือ

1. เป็นต้นฉบับทางกาย แบบเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำให้ของทั้งหลายในโลกมีค่าสูงขึ้นตัวอย่างเช่น ก้อนดินเหนียวธรรมดาถ้าหากนำมาใส่แบบพิมพ์แล้วพิมพ์เป็นตุ๊กตาก็ทำให้ดิน ก้อนนั้นมีค่าขึ้นมาเป็นเครื่องประดับบ้านเรือนได้ดินเหนียวก้อนเดียวกันนี้ หากได้แบบที่ดีกว่าขึ้นมาอีกเช่นแบบเป็นพระพุทธรูปก็จะเห็นได้ว่าคุณค่าของ ดินเหนียวก้อนนี้ทรงคุณค่ามากยิ่งขึ้นผู้คนได้กราบไหว้บูชา จะเห็นได้ว่าคุณค่าของดินเหนียวก้อนนี้ขึ้นอยู่กับแแบบที่พิมพ์นั่นเอง ในทำนองเดียวกัน การเกิดของสัตว์ เช่นเป็นช้าง มัา วัว ควาย ฯลฯแม้จะมีปัญญาติดตัวมามากสักปานใดก็ไม่สามารถทำความดีได้เต็มที่โชคดีที่ เราได้แบบเป็นคน ซึ่งเป็นโครงร่างที่ประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งหลายเหมาะในการทำความดีทุกประการ พระคุณของพ่อแม่ในการเป็นต้นแบบทางกายให้เราก็นับว่ามีมากเหลือหลายแล้วยิ่ง ท่านอบรม เลี้ยงดูเรามาเป็นต้นแบบทางใจให้ด้วยก็ยิ่งมีพระคุณมากเป็นอเนกนันต์

2. เป็นต้นแบบทางใจให้ความอุปการะเลี้ยงดู ฟูมฟัก ทะนุถนอมอบรมสั่งสอน ปลูกฝังกิริยามารยาทให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ลูก

 

เรียงความวันแม่
เรียงความวันแม่

เรียงความวันแม่ : คุณธรรมของลูก

เมื่อพ่อแม่มีพระคุณมากมายปานนี้ลูกจึงควรมีคุณธรรมต่อ ท่านคุณธรรมของลูกเริ่มที่รู้จักคุณพ่อแม่คือรู้ว่าท่านดีต่อเราอย่างไร สูงขึ้นไปอีกคือตอบแทนคุณท่านในทางศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสบรรยาย คุณธรรมของลูกไว้อย่างสั้นๆแต่จับความไว้ได้อย่างครบถ้วน

คือคำว่า “กตัญญูกตเวที” คุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นลูกรวมอยู่ใน 2 คำนี้
กตัญญู หมายถึงเห็นคุณท่านคือเห็นด้วยใจ ด้วยปัญญาว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณต่อเราอย่างแท้จริง ไม่ใช่สักแต่ว่าปากท่องพระคุณพ่อแม่ปาวๆไปเท่านั้น คุณของงพ่อแม่ดูได้ จากอุปการะคือประโยชน์ที่ท่านทำแก่เรามีอะไรบ้างที่แตกต่างจากคนอื่น ตามธรรมดาของคนทั่ว ๆ ไปเมื่อจะอุปกาะใครเขาต้องเห็นทางได้ เช่น เห็นหลักทรัพย์ หรือดูนิสัยใจคอต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าอุปการคุณของเขาจะไม่สูญเปล่า จึงลงมือช่วยเหลือแต่ที่พ่อแม่อุปการะเรานั้นเป็นการอุปการะโดยบริสุทธิ์ใจ จริง ๆไม่ได้มองถึงหลักประกันใด ๆ เลยเราเองก็เกิดมาตัวเปล่าไม่มีหลักทรัพย์แม้แต่เข็เล่มเดียวยังไม่รู้เสีย ด้วยซ้ำว่าอวัยวะร่างกายจะใช้ได้ครบถ้วนหรือไม่ยิ่งนิสัยใจคอแล้วยิ่งรู้ไม่ ได้เอาทีเดียวโตขึ้นมาจะเป็นอย่างไรจะเป็นคนอกตัญญูหรือไม่ไม่รู้ทั้งนั้น
หนังสือสัญญาการรับปากสักคำเดียวระหว่างเรากับท่านก็ไม่มีแต่ทั้ง ๆที่ไม่มีท่านทั้งสองก็ได้โถมตัวเข้าช่วยเหลือเราจนสุดชีวิตที่ยากจนก็ถึง กับกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาช่วยเรื่องเหล่านี้ต้องคิดดูด้วยเหตุผลอย่าสักแต่ คิดด้วยอารมณ์เท่านั้นการพิจารณาให้เห็นคุณของพ่อแม่ด้วยใจอย่างนี้ถึง
เรียกว่า”กตัญญู” เป็นคุณธรรมเบื้องต้นของผู้เป็นลูก ยิ่งพิจารณาเห็นคุณท่านมากเท่าไรแสดงว่าใจของเราเริ่มใสและสว่างมากขึ้นเท่านั้น

กตเวทีหมายถึงการทดแทนพระคุณของท่าน ซึ่งมีงานที่ต้องทำ 2 ประการ คือ

1. ประกาศคุณท่าน

2. ตอบแทนคุณท่าน

ดั่งคำกล่าวที่ว่า…

ลูกเอ๋ย…ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน

ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง ใจน้อยง่าย ความจำก็เสื่อม ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น

ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่

เพราะพวกเจ้าทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เจ้าช่วยท่านให้ได้รับความสุขเพียงการให้กินอยู่หลับนอน

อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่ เจ้าจงจำไว้ว่า

การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริงก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆให้พ่อแม่ของเจ้า

พาท่านไปทำบุญทำทาน สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา ธรรมะจะอยู่ใน

จิตใจของพ่อแม่เจ้าทุกภพทุกชาติ ถือว่าเป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด
(สมเด็จโต พรหมรังสี)

ฟังเพลง เรียงความเรื่องแม่ คลิก

ขอบคุณข้อมูล (เรียงความวันแม่)
www.cmxseed.com
http://th.wikipedia.org